วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2561

มะกรูด...ทำน้ำพริกได้ด้วยนะ



น้ำพริกมะกรูด
cc: https://th.openrice.com

        น้ำพริกมะกรูด เป็นน้ำพริกเพื่อสุขภาพ จากครัวไทยแต่โบราณ ความหอมจากผิวมะกรูดและน้ำมะกรูดคือจุดเด่นของน้ำพริก มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายด้วย แต่ปัจจุบันนี้น้อยคนนักที่จะได้ทาน เพราะส่วนใหญ่แล้วเมื่อพูดถึงมะกรูด เราจะนึกถึง "ใบมะกรูด"  ซึ่งมักจะนำมาทำอาการเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหารทำให้น่าทานมากยิ่งขึ้น

ลูกมะกรูดและใบมะกรูด

cc: https://www.samunpri.com/kitchendrugs

          ประโยชน์ มะกรูดมีรสเปรี้ยว ช่วยบำรุงเลือดลม ฟอกเลือดสตรี ซึ่งเหมาะกับผู้หญิง ช่วยบำรุงหัวใจ ทำให้สดชื่น มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยย่อย ขับลม

🔘ท้ายสุดนี้ พืชผักสวนครัว เป็นทั้งอาหารและยา ร่วมกันรักษ์สุขภาพด้วยการทานอาหารเป็นยานะ ☺

แกงเหลือง...คืออะไรกันแน่ คนภาคใต้มึนงง ป่ะ! 😰

แกงเหลือง
cc: https://pin.it/5rnvperfekd5jh

แกงเหลือง หรือ แกงส้ม ?
ชื่อนั้น สำคัญไฉน!
คนภาคกลาง เห็นแกงในภาพด้านบน จะเรียกแกงนี้ว่า "แกงเหลือง"
ส่วนคนภาคใต้นั้น จะเรียกแกงนี้ว่า "แกงส้ม" อาจจะเป็นเพราะว่า แกงส้มทางภาคใต้ จะใส่ ขมิ้น เป็นเครื่องปรุงพริกแกง ส่วนภาคอื่นๆ จะใช้ กระชาย เป็นเครื่องปรุงพริกแกง ทำให้สีของแกงออกมาไม่เหมือนกัน เลยเดาว่า ทางภาคอื่น เห็นสีของแกงเลยเรียกว่า แกงเหลือง ส่วนรสชาด จะออกเผ็ดมากกว่าของภาคอื่นๆ แต่ที่คนภาคใต้เรียกแกงส้ม เพราะมีรสชาดเปรี้ยว ที่ได้จาก มะนาว มะขามเปียก หรือพวกส้มอื่นๆ เช่น มะม่วงเบา ตะลิงปลิง ลูกมุด หรือผักอื่นๆที่ให้รสชาดเปรี้ยว

จากเมนูแกงเหลืองนี้ เครื่องปรุงที่เด่นจากภาคอื่นๆคือ ขมิ้น เลยขอนำเสนอเรื่องของขมิ้นจ้า 😉

ขมิ้น
ขมิ้น ว่ากันว่า มี 3 ชนิด คิอ
🔘ขมิ้นชัน  🔘ขมิ้นอ้อย  🔘ขมิ้นขาว

ขมิ้นชัน (Turmeric) เป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำอาหาร มีรสชาดที่จัด และสีสันสวยงาม
ขมิ้นชันมีทั้ง วิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซี่ยม เหล็ก เกลือแร่ฯ
ขมิ้นชัน นิยมนำมาทำอาหาร เช่น แกงเหลือง ข้าวหมกไก่  แกงกะหรี่ สามารถดับกลิ่นคาว ช่วยให้อาหารไม่บูดเน่าเสียง่าย เพราะมีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ และขมิ้นชันยังมีคุณสมบัติใช้เป็นยาทาภายนอก รักษาอาการแพ้ ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ ทั้งยังนำมาพอกหน้าลดสิวได้อีกด้วย 😄

https://www.honestdocs.co/turmeric-thai-herbal-and-its-benefits


ขมิ้นอ้อย
http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=151

ขมิ้นอ้อย ไม่ค่อยนิยมนำมาทำอาหาร ส่วนมากใช้เป็นสมุนไพรทางยา และเสริมความงามมากกว่าขมิ้นชัน ด้วยเพราะสี และรสชาดไม่จัดเหมือนขมิ้นชัน


ขมิ้นขาว
ต้น“ขมิ้นขาว”ที่นิยมนำมากินกันก็คือ เหง้าอ่อน ซึ่งมีกลิ่นหอม เนื้อกรอบ     รสเผ็ดร้อนและเจือขมเล็กน้อย แม้กลิ่นและรสจะเผ็ดกว่าข่า แต่ก็ไม่มากเท่าขิง “ขมิ้นขาว”กินสดโดยฝานเป็นชิ้นบาง ๆ จิ้มน้ำพริกหรือหลน ช่วยเติมกลิ่นและรสชาติ       ให้ยิ่งอร่อย หรือจะใส่ในผัดเผ็ดปลาดุกหรือแกงคั่ว ก็ช่วยดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี
https://www.winnews.tv/news/11835


👀 ท้ายสุด  สุดท้าย แกงส้ม กลายเป็นแกงเหลืองเพราะขมิ้นชันนี่เองมั้ง 😀😉😆

วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2561

แกงเปรอะ!!! เลอะ เกรอะกรังรึป่าว.....😆


 แกงเปรอะ

แกงนี้ เป็นแกงที่รวมผักต่างๆ เช่น หน่อไม้ ฟักทอง ชะอม เห็ด หรือผักอะไรก็ได้ที่เราชอบ แต่น้ำแกงที่จะนำมาปรุงแกงนี้ ใช้น้ำใบย่านางคั้นสดๆ เอามาเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำแกง และที่เด่นอีกอย่างคือ ใส่น้ำปลาร้า  หรือภาคใต้ อาจจะน้ำไตปลา และใส่ข้าวคั่ว หรือข้าวเหนียวแช่น้ำเอามาตำๆแล้วใส่ลงในแกง เพื่อเพิ่มความข้นของน้ำแกง  แค่คิดน้ำลายก็เต็มกะพุ้งแก้มแล้วสิ...น่าลองทำ แต่ขาด "ใบย่านาง" 😲😲



ใบย่านาง (Bai - ya - nang)

ลักษณะใบย่านาง เป็นพืชชนิดเถาไม้เลื้อยเกี่ยวพันกับต้นไม้อื่น  สรรพคุณใบย่านางมีมาก จัดเป็นพืชสมุนไพรเย็น มีคลอโรฟิลล์สดจากธรรมชาติ และยังมีวิตามินต่างๆ อีกมากมาย รวมทั้ง ธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม และเบต้าแคโรทีนในปริมาณที่ค่อนข้างสูง  เป็นพืชสมุนไพรที่นิยมนำมาเป็นเครื่องปรุง ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมของอาหาร เช่น แกงหน่อไม้ ซุปหน่อไม้ แกงเลียง แกงหวาน 

ว่ากันว่า...😉 ใบย่านาง นี้ เป็นสมุนไพรยาอายุวัฒนะ ชะลอการเกิดริ้วรอย และความแก่ชราอย่างได้ผล 👀
ประโยชน์มีอีกมากมายนัก แต่ที่น่าสนใจ เช่น ช่วยแก้อาการง่วงนอนหลังรับประทานอาหาร  ช่วยลดอาการนอนกรน
🔍รากย่านาง สามารถแก้ไข้ได้ทุกชนิด ทั้งไข้พิษ  ไข้หัด 
🔎เถาย่านาง ช่วยในการลดความร้อน และแก้พิษตานซาง

ท้ายสุดนี้ แกงเปรอะ ใช่ว่าจะเปรอะเปรื้อนอย่างความหมายของมันไม่ แต่น่าจะมาจาก สีคล้ำของน้ำแกงที่ได้มาจากใบย่านางนั่นเอง รวมทั้ง เป็นแกงที่รวบรวมสารพัดผัก เลยอาจจะดูเลอะเปรอะ(มากมาย) มั้ง 😃😃😃


ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก : Medthai.com

หอมหวล....แกงรัญจวน.....ใจ 😉

แกงรัญจวน
บันทึกจาก : adrenalinerushdiaries.com


     ต้นตำรับ ของท่านย่าหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ ที่ทรงบันทึกไว้ในสมัยรัชกาลที่ 5
     แกงรัญจวน แค่ชื่อ ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมๆแสนรัญจวน  หอมนี้มาจากอะไรอื่นไม่ได้นอกจากกลิ่นกะปิ และ โหระพา

     ความเป็นมาของแกงรัญจวนนี้ จากการรื้อค้นหาข้อมูลอ่านมา ทราบว่า มาจากอาหารที่ตั้งโต๊ะแล้วทานไม่หมด ครั้นเหลือจะเททิ้งก็ไม่ควร  ด้วยภูมิปัญญาของเจ้าของต้นตำรับคือท่านย่าของหม่อมหลวงเนื่อง  ท่านได้นำเอาเนื้อสัตว์ที่เหลือเทใส่หม้อ แล้วเคี่ยวให้เปื่อยพร้อมทั้งใส่เครื่องปรุงเช่น หอม กระเทียม ฯ ตามสูตรของท่าน เคี่ยวจนเปื่อยแล้ว จากนั้นก็ตำน้ำพริกกะปิ เทใส่ลงไป ปิดท้ายด้วย โหระพา และเสริฟตอนร้อนๆ  ทำให้ผู้ที่ได้ทาน ติดอกติดใจ ทานจนหมดเกลี้ยง จากแกงที่เหลือนำมาปรับเปลี่ยนดัดแปลงปรุงรสใหม่ เลยได้ชื่อว่า 
🔘 แกงรัญจวน 🔘 นี่เอง

จากที่มาของแกงนี้ จึงนำเสนอ เครื่องปรุงที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของแกงนี้ คือ....

โหระพา (Sweet Basil)

โหระพา เป็นพืชผักสวนครัวและสมุนไพรเช่นกัน  ใบสด ช่วยขับลมแก้ท้องอืด ใช้เป็นอาหาร นิยมรับประทานร่วมกับอาหารประเภท หลน  ลาบ  ยำ  ส้มตำ  หรือใส่แกงเขียวหวาน  แกงเผ็ด  ก๋วยเตี๋ยว ว่ากันว่า มี
แคลเซี่ยมสูง

👀 น้ำมันหอมระเหยของใบโหระพา ช่วยคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ  ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงช่วยให้สบายท้อง  มีกลิ่นหอม  มีคุณสมบัติช่วยให้สงบ มีสมาธิ ลดอาการ
ซึมเศร้า
📌ข้อควรระวัง อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ง่าย คนท้องควรหลีกเลี่ยง

🍴🍚🍴ท้ายสุด ดีใจที่ได้รู้จัก แกงรัญจวน ทั้งๆที่ยังไม่เคยทาน ไม่เคยเห็น แต่ได้ยินแค่ชื่อ น้ำลายก็สอแล้ววววว ... รัญจวนใจ จริงๆ 😃

ผู้อ่านท่านใดต้องการให้นำเสนอเมนูอะไร เม้นท์มาได้นะ 🙏

ขอบคุณข้อมูล : วิกิพีเดีย
         และ www.gourmetandcuisinc.com




วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ปลาช่อน...ทำไมต้องลุยสวน 🍃

ปลาช่อนลุยสวน
จากเมนู ปลาช่อนลุยสวนนี้ เรามาดูกันนะว่า มีเครื่องปรุงที่ชูโรงให้เมนูนี้ แซบ! อร่อย ติดใจใครๆหลายๆคน

ตะไคร้ (Lemon Grass)
ตะไคร้ เป็นพืชผักสวนครัว และเป็นพืชสมุนไพรของคนไทย ซึ่งนิยมนำมาประกอบอาหาร ทั้งนี้ตะไคร้ยังมีน้ำมันหอมระเหยที่มีประโยชน์ด้วย

รู้มั้ย..ว่า  ตะไคร้ มีตั้ง 6 ชนิด มีอะไรบ้าง
🔸ตะไคร้กอ  🔹ตะไคร้หางสิงห์  🔸ตะไคร้หอม  🔹ตะไคร้น้ำ  🔸ตะไคร้หางนาค  🔹ตะไคร้ต้น
ในตะไคร้ มีแคลเซี่ยม และธาตุเหล็กด้วยนะ ทั้งยังมีสารที่ช่วยขับปัสสาวะ  ขับสารพิษและกรดยูริคที่มีอยู่ในปัสสาวะให้ออกมาจากร่างกาย ยังช่วยล้างระบบย่อยอาหาร ตับ และไต ทำให้ระบบย่อยอาหารสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อระวัง สำหรับคนท้อง หรือ กำลังให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการกินตะไคร้ แต่ยังไม่มีการวิจัยที่แน่ชัดจากข้อเสียดังกล่าว แต่ก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงไว้ก่อนดีกว่า 😐


สะระแหน่ (Kitchen mint, March mint)
สะระแหน่ มีกลิ่นหอมและรสชาดคล้ายตะไคร้หอม ซึ่งมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆหลายชนิด รวมทั้งแคลเซี่ยมและธาตุเหล็กด้วย
ใบสะระแหน่ ควรเลือกใช้ใบสดและยอดอ่อนจะได้สรรพคุณดีกว่าใบแห้ง
ประโยชน์ใบสะระแหน่มีมากมาย ใช้เป็นยาได้ทั้งภายใน(กิน)และภายนอก(ทา) ยังช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
ใบสะระแหน่ใช้ประกอบอาหารได้ทั้งคาว หวาน นิยมใช้ทานกับ ลาบ ยำ น้ำตก และพล่า 😃


ผักชี (Coriander)
ผักชี แต่ละท้องถิ่นมีชื่อเรียกที่ไม่เหมือนกัน เช่น ผักหอม,  ยำแย้,  ผักหอมป้อม,  ผักหอมผอม,  ผักหอมน้อย
ผักชีไทย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว จึงนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารต่างๆให้หอม น่าทานมากขึ้น และยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
กรณีที่ใช้ทั้งต้น จะมีสรพคุณ ช่วยขับเหงื่อ  ขับเสมหะ ด้วยการเอาต้นสดมาต้ม หรือคั้นเอาเฉพาะน้ำมาดื่ม
ผักชี เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่ง มี่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้อาหาร และมีสรรพคุณ ในการกระตุ้นกระเพาะอาหารและลำไส้ให้ขับน้ำดีและ ขับน้ำย่อย ออกมามากขึ้น  น้ำมันหอมระเหยของผักชี ยังมีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี
ผักชี สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น
📌ใบผักชี บำรุงร่างกาย
📌เมล็ดผักชี ลดอาการปวดฟัน
📌รากผักชี ช่วยขับพิษ
🔘ข้อเสีย🔘 การรับประทานผักชีมากเกินไป จะทำให้มีกลิ่นตัวแรง มีอาการตาลาย และหลงลืมได้ง่าย ผู้ป่วยโรคไต ควรหลีกเลี่ยง


หอมแดง (Shallot)
หอมแดง เป็นพืชสมุนไพรที่นิยมใช้ส่วนหัวมาประกอบอาหาร
ในหอมแดง มีสารที่ทำให้มีกลิ่นฉุน เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
ในหอมแดง มีน้ำมันหอมระเหย ทำให้ระคายเคืองตา โดนผิวหนังมากๆ จะปวดแสบปวดร้อน นอกจากน้ำมันหอมระเหยแล้ว ยังมี สารที่ทำให้เกิดกลิ่น จะช่วยลดปริมาณไขมันในร่างกาย และยังมี สารยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ สารตัวนี้ จะเกิดขึ้นเมื่อหัวหอมถูกทุบหรือทำให้แตก สารชนิดนี้จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้
หอมแดง ยังช่วยให้เจริญอาหาร ป้องกันโรคหัวใจ บำรุงสมอง ป้องกันมะเร็ง ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และช่วยไล่แมลงสาบด้วย 😲

🔘ข้อควรระวัง🔘 น้ำมันหอมระเหย มีกำมะถันสูงทำให้แสบตา  กินหอมแดงมากทำให้มีกลิ่นตัวแรง

👀ท้ายสุดนี้ ปลาช่อนลุยสวนได้เพราะ ภูมิปัญญาของคนไทย ที่ได้คิดผสมผสานส่วนประกอบมาปรุงแต่ง ทำให้เมนูนี้ ได้รับคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ยังได้สารอาหารที่มีสรรพคุณทางยาเพื่อป้องกันให้ร่างกายของเรามีสุขภาพที่ดี นับว่า เมนูนี้ สุดยอดเลย...ใช่มั้ย 😇

วันอังคารที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2561

มัสมั่นแกง...แก้วตา ใช่เหรอค่ะ


เมล็ดยี่หร่า (Cumin)
📌มัสมั่นแกงแก้วตา  หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง  แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา📌
กาพย์เห่เรือ พระราชนิพนธ์ โดยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

จากกาพย์เห่เรือข้างต้นนี้ พูดถึง ยี่หร่า ซึ่งหมายถึง เมล็ดยี่หร่า ใช้เป็นเครื่องเทศที่สำคัญใน แกงกะหรี่ และมัสมั่น 

เมล็ดยี่หร่า (Cumin)  ที่ใช้เป็นเครื่องเทศนั้น ไม่ใช่ เมล็ดจากต้นใบยี่หร่า (Tree Basil)  แต่ชื่อ ยี่หร่า ซ้ำกัน ทำให้บางคนเข้าใจผิด ซึ่งหนึ่งในนั้น คือเราเอง 😜 
เมล็ดยี่หร่า มาจาก ต้นเทียนขาว ใบคล้ายผักชีลาว ซึ่งเมล็ดยี่หร่านี่แหละที่ใช้มาทำเครื่องเทศ เครื่องปรุงแกงมัสมั่น พะแนง หรือ แกงกะหรี่ โดยนำเมล็ดไปคั่วไฟอ่อนๆเพื่อเพิ่มความหอมแล้วโขลกใส่ในอาหาร 



ส่วนใบยี่หร่า (Tree Basil)

ใบยี่หร่านี้ มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น โหระพาช้าง, กะเพราควาย, กะเพราญวน ภาคใต้ส่วนใหญ่จะเรียก ใบราใหญ่ ลักษณะคล้ายโหระพา แต่ใบใหญ่กว่า ผิวของใบยี่หร่าจะสากๆเหมือนใบกะเพรา รสชาดเผ็ดร้อนกว่าใบกะเพรา นิยมใช้ทำอาหารที่เป็นเนื้อ เพื่อดับกลิ่นคาว เช่นแกงคั่ว หรือแกงป่า 
ใบยี่หร่า มีเส้นใยและวิตตามินที่ช่วยในการทำงานของระบบประสาท และช่วยทำลายอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ 😲  ดีต่อดวงตา ใบยี่หร่านี้ มีสรรพคุณทางยาด้วย



และอีกยี่หร่า คือ เทียนข้าวเปลือก ยี่หร่าชนิดนี้มีเมล็ดคล้ายกับเมล็ดยี่หร่าที่มาจากต้นเทียนขาว แต่ลักษณะและขนาดไม่เหมือนกัน รสชาดจะออกหวานและเย็นใช้หมักเนื้อสัตว์


ท้ายสุด มัสมั่นแกงแก้วตา หรือ มัสมั่นไก่ดีน๊าาาา 🙌🙌🙌

ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก วิกิพีเดีย และ medthai.com

วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2561

กระเพรา อาหารสิ้นคิด จริงหรือไม่...

ใบกะเพรา (Basil Leaf)
กะเพรา  ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรไทยชนิดหนึ่ง 
ใช้ปรุงอาหาร ทำให้มีกลิ่นหอมฉุน และรสชาดเผ็ดร้อน มักเป็นเมนูที่นิยมทานกันมากจนติดปาก  เมื่อถามกันว่า มื้อนี้ทานอะไรดี และจะมี เมนู "ผัดกะเพราไก่-ไข่ดาว" จนทำให้เพื่อนๆในกลุ่มที่ไปทานด้วยกันล้อเป็นเสียงเดียวกันว่า  เมนูสิ้นคิด แต่ความจริงแล้ว  เมนูนี้ มีใบกะเพราเป็นเครื่องปรุงที่ให้คุณค่าทางด้านโภชนาการ และสรรพคุณทางยาด้วย
ใบกะเพรา มีทั้งประโยชน์และข้อเสียด้วย เหมือนทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ มีทั้งคุณและโทษ หากอะไรที่มาก หรือน้อยเกินไป เราได้ค้นหาข้อมูลมาพอสมควรซึ่งพอจะบอกได้ถึงประโยชน์ คือ ช่วยป้องกันหวัด, ช่วยขับลม, แก้คลื่นไส้อาเจียน, แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง, และช่วยลดระดับไขมันในร่างกาย ฯ
ส่วนข้อเสียของใบกะเพรา เนื่องจากกะเพรามีฤทธิ์ชะลอการแข็งตัวของเลือด สำหรับคนที่มีแผลเลือดออกง่าย ไม่แนะนำให้ทานมากเกินไป และไม่ควรทานช่วงที่เตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัดนะคะ 🍃

🌿🍃 "กะเพรา" ถูกขนานนามว่า "ราชินีแห่งสมุนไพร  🍃🌿

ท้ายสุด...เพื่อนๆคิดว่า เมนูผัดกะเพรา สิ้นคิด จิงอ่ะป่าว 😉😉